บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก สิงหาคม, 2018

ผักโขมผักพื้นบ้านชั้นดี

รูปภาพ
พืชผัก พื้นบ้านชั้นดีของคนไทย ที่ปู่ย่าตาทวดของเรารู้จักกินและใช้ ประโยชน์ มานาน บางท้องที่เรียกว่า “ผักขม” บางคนก็เรียกว่า ผักโขมบ้าน หรือ Amaranth เป็นพืชล้มลุกพุ่มเตี้ยที่แตกกิ่งเล็กกิ่งน้อยออกไปมากมาย พร้อมกับมีหนามแหลมคมซ่อนไว้ที่ซอกใบ มีทั้งแบบที่ลำต้นเป็นสีเขียว และลำต้นเป็นสีน้ำตาลแดง ใบเป็นใบเดี่ยวรูปไข่ ขอบใบหยักเล็กน้อย ดอกออกเป็นช่อสีม่วงปนเขียว เมล็ดมีขนาดเล็กเป็นสีน้ำตาลเข้มเกือบดำ ผักพื้นบ้านชั้นดีจากแดนอีสาน มากด้วยกากใย และเบต้าแคโรทีนที่ซ่อนไว้ในความขม ชาวพื้นเมืองโบราณของเม็กซิโกนาม “แอสแท็ก” รู้จักและกินเจ้าผักโขมนี้กันมานานเกินกว่า 2,000 ปีแล้ว แต่เขากินเมล็ดกัน ส่วนพี่ไทยเราชอบใบเขียวๆ ที่อุดมด้วยวิตามินเอ กรดอะมิโน และสารอาหารตัวสำคัญๆ ไว้อย่างสุดยอด ในแง่ของคุณค่าทางโภชนาการแล้ว ถือว่าเป็นที่สุดของพืชผักสมุนไพรอีกชนิดหนึ่ง เพราะมากด้วยสารอาหารสำคัญไว้อย่างเพียบพร้อมทุกตัว และแต่ละตัวก็มีปริมาณสูงมาก อย่างวิตามินซีที่ให้ถึง 120 มก. ฟอสฟอรัสสูงถึง 76 มก. และแคลเซียม 341 มก. ในปริมาณแค่ 100 กรัมเท่านั้น นี่ยังไม่รวมธาตุอื่นๆ อย่างโปรตีน วิตามินบี 1-บี 2 หรือธาต

กระเทียมดีอย่างไร

รูปภาพ
“ กระเทียม ” เป็นพืชล้มลุกชนิดมีหัวอยู่ใต้ดิน หัวจะประกอบไปด้วยกลีบเรียงซ้อนกันประมาณ 4 - 10 กลีบ บางพันธุ์จะมีเพียงกลีบเดียว เรียกว่า “กระเทียมโทน” กลีบมีกาบเป็นเยื่อบางๆ สีขาวอมชมพูหุ้มอยู่โดยรอบ กระเทียมเป็นพืชที่มีรากไม่ยาวนัก ใบมีลักษณะแบนยาว ปลายใบแหลม ที่โคนจะมีใบหุ้มซ้อนกัน ออกดอกเป็นช่อสีขาวติดเป็นกระจุกที่ปลายก้านช่อ หลายคนรู้จักกระเทียมในฐานะสมุนไพรที่มีกลิ่นหอมฉุน รสชาติเผ็ดร้อน และมีสารอาหารที่สำคัญ ประกอบด้วย กรดไขมัน โปรตีน คาร์โบไฮเดรต น้ำตาล กรดอะมิโน เหล็ก แคลเซียม วิตามินบี 1 บี 2 และวิตามินซี นอกจากนี้ กำมะถัน ที่อยู่ในกระเทียมยังช่วยยับยั้งการเกิดสารไนโตรซามีนซึ่งเป็นสารก่อมะเร็ง รวมทั้งมีซีลีเนียมที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ จึงช่วยป้องกันการเกิดเซลล์มะเร็งที่อวัยวะต่างๆ ได้อีกด้วย สำหรับสรรพคุณของกระเทียมก็มีอยู่มากมายเช่นกัน โดยการทานกระเทียมทั้งสดหรือแห้งเป็นประจำ จะสามารถป้องกันโรคหลอดเลือดอุดตัน และกล้ามเนื้อหัวใจหยุดทำงานเฉียบพลันได้ นอกจากนี้ ยังช่วยลดปริมาณคอเลสเตอรอลในเส้นเลือด ช่วยลดความดันโลหิต รวมทั้งช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเส้นเลือดให้เป็นปกติได้ ยัง

พริก ประโยชน์ที่มากกว่าความเผ็ด

รูปภาพ
วันนี้มาพูกถึง พืชผักสมุนไพร ที่อยู่คู่ครัวไทยมานานแสนนานกันดีกว่าค่ะนั่นก็คือ พริก นั่นเอง เพราะว่านอกจากว่ามันนั้นจะช่วยเพิ่มความแซ่บให้กับอาหารของคุณแล้ว มันยังช่วยในเรื่องของความอร่อยของอาหาร เจริญอาหารมากขึ้น อีกทั้งนอกจาความเผ็ดและความอร่อยของมันนั้น พริกนั้นยังมีมากกว่านั้น เรามาดูกันดีกว่าค่ะ ว่าพริกนั้นมีประโยชน์อย่างไรบ้าง ที่ไม่ใช่แค่ความเผ็ด - พริกนั้น สามารถช่วยเราในเรื่องของการหายใจเวลาที่เรานั้น เป็นไข้หวัด เพราะว่าในพริกมีสารแคปไซซิน ซึ่งเจ้าสารนี้จะช่วยในเรื่องของการลดน้ำมูกและอีกทั้งยังลดในเรื่องของปริมาณสารที่ขัดขวางระบบการหายใจ ทั้งในผู้ป่วยที่เป็นไข้หวัด ไซนัส หรือโรคภูมิแพ้ต่างๆ ช่วยบรรเทาอาการไอ - พริกสามารถช่วยในเรื่องของการอุดดันในเส้นเลือดได้อีกด้วย อีกทั้งยังช่วยลดการเสียชีชีวิตอันเนื่องมาจากเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงสมองอุดตัน เพราะว่า การที่เรารับประทานอาหารที่มีพริกเป็นส่วนประกอบนั้นจะสามารถช่วยลดอัตราความเสี่ยงจากการอุดตันของเส้นเลือด นับเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดโรคหัวใจล้มเหลว เนื่องจากพริกช่วยให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้นและช่วยลดความดันอีกด้วย - พริกสามา

ดีปลี...ขับลมได้ แก้ไอดี

รูปภาพ
ชื่อทั่วไปเรียกว่า ดีปลี แต่ก็มีชื่ออื่นด้วย คือ จาวาลองเปปเปอร์ (Java long pepper) และทางภาคใต้ของเราเรียกว่า ดีปลีเชือก ลักษณะทั่วไป • เป็นไม้เถารากฝอยออกบริเวณข้อเพื่อใช้ยึดเกาะ ใบเดี่ยว รูปไข่แกมขอบขนาน กว้าง 3-5 เซนติเมตร ยาว 7-10 เซนติเมตร สีเขียวเข้มเป็นมัน ดอก ช่อ ออกที่ซอกใบ ดอกย่อยกันแน่น แยกเพศ ผล เป็นผลสด มีสีเขียว เมื่อสุกจะเปลี่ยนเป็นสีแดง มีรสชาติเผ็ดร้อน ลักษณะของสมุนไพร/เครื่องยา ผลที่มีลักษณะคล้ายดอกยาวประมาณ 2 นิ้ว มีสีน้ำตาล หรือเป็นรากที่ติดตามข้อของเถาที่พันเลื้อยมีสีน้ำตาล ส่วนที่ใช้และสรรพคุณ • ผลที่แก่จัดยังไม่สุก ใช้ตากแห้งเป็นยาขับลม บำรุงธาตุ แก้ท้องเสีย ขับรถหลังคลอด โดยใช้ผล 1 กำมือ หรือประมาณ 10-15 ผล ต้มเพื่อเอาน้ำดื่ม • นอกจากนี้ยังใช้เป็นยาแก้ไอ โดยเอาผลแห้งครึ่งผล นำมาฝนกับมะนาวแทรกเกลือใช้กวาดคอ หรือจิบบ่อย ๆ สมุนไพรพื้นบ้านถ้ารู้จักจดจำ ก็มียาดี ๆ ให้เราเลือกหยิบมาใช้ได้ประโยชน์แบบพึ่งพาตนเองได้สบาย แถมไม่ต้องระวังผลข้างเคียงจากยาแผนปัจจุบันให้เหนื่อยใจเสียอีกด้วย

ประโยชน์ของแครอทต่อสุขภาพตา

รูปภาพ
แครอท (Carrot) ช่วยบำรุงสายตา เพราะในแครอทมีสารเบต้าแคโรทีน ซึ่งเป็นหนึ่งในวิตามินที่ร่างกายต้องการ อีกทั้งมี ประโยชน์ ที่ช่วยในเรื่องของการบำรุงสายตาของเราด้วย โดยเฉพาะเนื้อเยื่อชั้นในของดวงตา หรือที่เรียกว่า เรติน่า ซึ่งการที่ได้รับประทานแครอทบ่อย ๆ ยังช่วยถนอมดวงตาให้สามารถมองเห็นอย่างปกติไปได้อีกนาน เพราะแครอท (Carrot) อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่มีประโยชน์หลายชนิด เช่น เบต้าแคโรทีน วิตามินเอ วิตามินบี1 วิตามินบี2 วิตามินซี วิตามินอี ธาตุแคลเซียม ธาตุโพแทสเซียม ธาตุฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก และยังมีสารสำคัญคือสาร “ฟอลคารินอล” (falcarinol) ซึ่งช่วยต่อต้านเซลล์มะเร็ง เป็นต้น วิตามินและสารอาหารที่สำคัญของแครอท ต่อ 100 กรัม เช่น - วิตามินเอ 835 ไมโครกรัม 104% ต่อ 100 กรัม - เบต้าแคโรทีน 8,285 ไมโครกรัม 77% ต่อ 100 กรัม - ลูทีน และ ซีแซนทีน 256 ไมโครกรัม - ธาตุแคลเซียม 33 มิลลิกรัม 3% - วิตามินซี 5.9 มิลลิกรัม 7% - วิตามินอี 0.66 มิลลิกรัม 4% เป็นต้น ประโยชน์ของแครอท ช่วยบำรุงและรักษาสายตา รักษาโรคตาฟาง และต้อกระจก มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งมีส่วนช่วยในการชะลอวัย และกา

มะเขือเปราะ บำรุงหัวใจ

รูปภาพ
มะเขือเปราะ ผักที่ใส่คู่หูกับเจ้า แกงเขียวหวาน นั้น เชื่อว่าทุกคนคงจะรู้จักกันดีนะคะ บางคนก็ชอบทาน บางคนก็เลือกที่จะไม่ทานและเขี่ยมันทิ้งออกไปจากชามแกงเขียวหวาน แต่ในคนที่ชอบทานนั้น อาจจะทานคู่กันกับ น้ำพริกกะปิ อาจจะจิ้มทั้งสดๆหรือเผาแล้ว ก็แล้วแต่ชอบ ทั้งนี้อยากจะให้ทราบว่า นอกจากความอร่อยแล้ว มะเขือเปราะผักพื้นบ้านนั้น สรรพคุณไม่พื้นบ้านจริงๆค่ะ ยังไม่เพียงเท่านั้นนะคะ เพราะว่าบางคนยังนิยมที่จะนำเจ้ามะเขือเปราะนั้นมาใส่ในยำอีกด้วย อร่อยมามายขนาดนี้แล้ว ดังนั้นคุณจึงไม่สมควรปล่อยให้มะเขือเปราะต้องวางทิ้งอยู่ข้างจานอีกต่อไปแล้ว ต่อมาเรามากล่าวกันต่อค่ะ ในเรื่องของประโยชน์มะเขือเปราะนั้นก็มีมากทีเดียว โดยในอินเดียนั้นจะนำมะเขือเปราะมาทำเป็นยา โดยผลมะเขือเปราะนั้นจะช่วยขับพยาธิ ลดการอักเสบ ช่วยย่อยอาหารและช่วยในการขับถ่าย ซึ่งในเรื่องของประโยชน์จากมะเขือเปราะนั้น ได้ยังมีการวิจัยยืนยันอีกด้วยนะคะว่า ทางงานวิจัยนั้นได้พบว่าผลมะเขือเปราะมีฤทธิ์ลดการบีบตัวกล้ามเนื้อเรียบ ต้านมะเร็ง บำรุงหัวใจ และลดความดันเลือด และยังลดปริมาณน้ำตาลในเลือดสำหรับผู้ที่เป็นเบาหวานได้อีกด้วย โดยสารสกัดจากมะ