บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก กรกฎาคม, 2018

เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ของดีน่าปลื้ม

รูปภาพ
มะม่วงหิมพานต์ สรรพคุณและ ประโยชน์ ของเม็ดมะม่วงหิมพานต์!! เม็ดมะม่วงหิมพานต์ เป็นผลมีเปลือกแข็ง มีเมล็ดเดียวลักษณะคล้ายรูปไต หรือคล้ายนวมของนักมวย มีสีน้ำตาลปนเทา ข้างในผลมีเมล็ดคล้ายรูปไต สรรพคุณของมะม่วงหิมพานต์ 1. แพทย์ในอินเดียใช้เมล็ดเลี้ยงเด็กทารกที่อายุเกิน 6 ขวบ เพื่อช่วยให้ร่างกายเจริญเติบโตได้เร็วและแข็งแรง 2. เม็ดมะม่วงหิมพานต์อุดมไปด้วยธาตุทองแดง จึงช่วยบำรุงเส้นผมและผิวหนังได้เป็นอย่างดี 3. สรรพคุณเม็ดมะม่วงหิมพานต์ ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด เม็ดมะม่วงหิมพานต์มีสรรพคุณช่วยป้องกันโรคมะเร็ง ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้ 4. เม็ดมะม่วงหิมพานต์มีธาตุแมกนีเซียมในปริมาณมาก จึงช่วยบำรุงสุขภาพเหงือก สุขภาพฟันและกระดูกให้แข็งแรง ป้องกันการเกิดโรคกระดูกพรุนในผู้สูงอายุได้ 5. จะช่วยป้องกันโรคจอประสาทตาเสื่อมได้ การวิจัยในบราซิลและอินเดียพบว่าสารสกัดจากเปลือกต้นและสารสกัดจากส่วนเหนือดินของต้น สามารถช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ 6. เมล็ดมีกรดไลโนเลอิก (Linoleic acid) ซึ่งช่วยป้องกันโรคไขมันอุดตันในเส้นเลือด ป้องกันโรคหัวใจและโรคเกี

กะเพรา สมุนไพรบนจานอาหาร

รูปภาพ
กะเพราไก่ไข่ดาว กะเพราไข่เยี่ยวม้า ฯ และอีกหลายเมนูที่มี กะเพรา เป็นส่วนประกอบ แต่จะมีสักกี่คนที่จะรู้ว่า สมุนไพร ใบเล็ก กลิ่นฉุน บนจากอาหารคุณเป็นมากกว่าอาหารที่ทำให้คุณอิ่มท้อง กะเพรา จัดเป็นพืชสมุนไพร และมีกลายพันธุ์ เช่น กะเพราแดง กะเพราขาว ลักษณะโดยทั่วไปของกะเพรา เป็นไม้พุ่ม ความสูงประมาณ 30-120 เซนติเมตร ลำต้นของกะเพราเป็นไม้เนื้อแข็ง มีกลิ่นหอม ใบของกะเพรามีกลิ่นฉุน ลักษณะใบหยาบมีขนโดยเฉพาะส่วนที่เป็นยอดอ่อน ดอกกะเพรา มีลักษณะเป็นชั้นๆคล้ายรูปฉัตร กลีบดอกมีสีขาว เมล็ดมีสีดำ ห่อหุ้มด้วยกลีบเลี้ยง สรรพคุณทางด้านสมุนไพรและการรักษา ใบ - ใบสดของกะเพรา มีกลิ่นฉุน และมีน้ำมันหอมระเหยอยู่มาก ซึ้งใน น้ำมันหอมระเหย ประกอบด้วยสารเคมี อย่าง linaloo และ methyl chavicol วิธีการปรุงเป็นยา ใบกะเพราสด - ใบกะเพราสด 1 กำมือ มาต้มในน้ำเดือด แล้วกรองเอากากออกเอาแต่น้ำดื่ม สรรพคุณ - เป็นยาแก้ท้องอืด ขับลมในลำไส้ บรรเทาอาการปวดท้อง บำรุ่งธาตุ ขับลม นอกจากนี้น้ำที่คั้นได้จากใบกะเพราหากนำมาทาผิวหนัง ยังสามารถช่วยรักษา กลาก เกลื้อน ได้อีกด้วย ใบกะเพรา - ยังสามารถแก้อาการปวดท้องของเด็กได้ดี

จากก้นครัวถึงหัวใจมนุษย์

รูปภาพ
โรคหัวใจ เป็นโรคที่คนไทยกลัวกันมาก เพราะไม่ว่าปีไหนๆ โรคนี้ก็อยู่ในโรคอันดับต้นๆที่ทำให้เสียชีวิต และสาเหตุก่อโรคก็ไม่พ้นการกินอยู่ที่ไม่ถูกต้องนั่นเอง สมุนไพรไทยๆ 4 อย่างให้ปรุงเป็นอาหารจานโปรด เป็นเมนูพิเศษที่ช่วยบำรุงหัวใจ และยังช่วยป้องกันโรคหัวใจกันแต่เนิ่นๆด้วย 1.กระเทียม สรรพคุณอันน่าทึ่งของกระเทียม นอกจากช่วยต้านโรคมะเร็งได้แล้ว ยังสามารถป้องกันโรคหัวใจที่หลาย ๆ คนต่างหวาดกลัวได้เป็นอย่างดี รวมทั้งช่วยลดความดันโลหิต การอุดตันของเส้นเลือด ลดการเกาะตัวของเกล็ดเลือด เพิ่มการไหลเวียนของเลือด ช่วยลดการอุดตันของไขมันในหลอดเลือด ป้องกันโรคหลอดเลือดอุดตัน และกล้ามเนื้อหัวใจหยุดทำงานเฉียบพลัน หากใส่กระเทียมลงไปในอาหารที่มีน้ำมัน เช่น ผัดต่างๆ จะช่วยลดการอุดตันของไขมันในหลอดเลือดได้ถึงร้อยละ 50 2.พริก มีผลต่อการจับกลุ่มของเกล็ดเลือด (platelet aggregation) ถ้าเกล็ดเลือดมีการจับกลุ่มกันง่าย หรือมากกว่าปกติจะทำให้เพิ่มความเสี่ยงที่จะเป็นโรคหัวใจได้มากขึ้น เพราะเลือดสามารถจับตัวกันเป็นก้อนแล้วอาจไปอุดกั้นหลอดเลือดโดยเฉพาะหลอดเลือดหัวใจ ก็จะทำให้เกิดภาวะหัวใจขาดเลือด กินทุกวันจะช่วยให

ประโยชน์ของ “ปลาหมึก” คุณค่าจากทะเลที่ไม่ควรมองข้าม

รูปภาพ
" ปลาหมึก " (Squid) ที่หลายคนรู้จักกันดีถือเป็น อาหารทะเล อีกหนึ่งชนิดที่นิยมนำมาประกอบอาหาร ทั้งอาหารไทยและอาหารนานาชาติ จุดเด่นของปลาหมึกคือสามารถนำมาประยุกต์รับประทานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นผัด ทอด ต้ม หรือนำมาแปรรูปทั้งแบบแห้งและแบบดอง ในบางประเทศอย่างเกาหลีและญี่ปุ่นก็ยังนิยมนำปลาหมึกมารับประทานกันแบบสดๆ แกล้มกับเครื่องดื่มโซจู (Soju) หรือสาเกในงานสังสรรค์อีกด้วย ประโยชน์ของปลาหมึก อุดมด้วยโอเมก้า 3 อย่างไรก็ตาม หลายคนก็ยังมีความเชื่อว่าปลาหมึกเป็นอาหารที่ยิ่งรับประทานยิ่งอ้วนเพราะมีคอเลสเตอรอลสูง ก่อนอื่นต้องขออธิบายก่อนว่าในปลาหมึกมีคอเลสเตอรอลสูงจริงแต่ก็มีปริมาณไขมันกลุ่มโอเมก้า3 อยู่จำนวนมากเช่นกัน โดยโอเมกา 3 ในปลาหมึกจะทำหน้าที่ยับยั้งปริมาณคอเลตเตอรอลให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมได้ จึงอาจกล่าวได้ว่าคอลเลตเตอรอลในปลาหมึกไม่มีผลเสียใดๆกับร่างกายหากรับประทานให้เหมาะสมเปรียบเทียบกับเนื้อหมู หรือเนื้อวัวด้วยแล้ว จะพบว่าปลาหมึกทำให้เป็นโรคหัวใจหรือคอลเลตเตอรอลสูงได้น้อยกว่าเพราะเนื้อหมูและวัวนั้นไม่มีโอเมก้า 3 นั่นเอง

หอมแดง สรรพคุณไม่ธรรมดาพาไกลโรค

รูปภาพ
“ หอม ” (มีชื่อพื้นบ้านว่า หอมไทย หอมหัวเล็ก หอมเล็ก หอมแดง และหอมหัวแดงคนไทย) มีหลายชนิดแตกต่างกันไป ตามขนาด สี และกลิ่นหอม หอมที่จะกล่าวถึงต่อไปนี้เป็น หอมหัวเล็ก หรือที่เรียกว่า “หอมแดง”นั่นเอง ช่วงนี้จะเห็นหลายคนๆ มีอาการ ทั้งไอ จาม เจ็บคอ หรือมีน้ำมูก บางคนเลือกซื้อยามาทาน เป็นอาทิตย์ก็ยังไม่หาย เสียงเปลี่ยน เจ็บคอ เห็นแล้วสงสาร ก็หาข้อมูลว่ามีผักสวนครัวพื้นบ้านเราอะไรบ้าง ที่จะช่วยบรรเทาอาการเหล่านี้ เคล็ด(ไม่)ลับ สรรพคุณทางยา ในหอมแดงอุดมด้วยวิตามิน และคุณค่าทางอาหารครบถ้วน แถมยังเพิ่มอุณหภูมิร่างกาย บำรุงสมอง ช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดี ที่สำคัญ มีฤทธิ์เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่ไม่ขึ้นลงวูบวาบ ด้วยความหลากหลายของตัวยาในหอมแดง ส่งผลให้มีสรรพคุณมากตามไปด้วย ข้อมูลจากสถาบันอภัยภูเบศรกล่าวถึงวิธีใช้ประโยชน์ของหอมแดงไว้ดังนี้ ไข้หวัด แก้หวัดคัดจมูก และช่วยลดน้ำมูก ใช้หัวเล็กปอกเปลือกทุบพอแตก ห่อผ้าบางๆ วางไว้ตรงหัวนอน เพื่อให้กลิ่นหัวหอมเข้าจมูก ช่วยทำให้จมูกโล่ง สามารถบรรทาอาการหวัดได้ (วางไว้เวลาเด็กหลับ ) บรรเทาอาการท้องเดิน ท้องอืด