เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ถั่วอีกชนิดที่ขึ้นชื่อเรื่องคุณประโยชน์ รู้จักกันให้ดีอีกนิดแล้วจะรักมากกว่าเดิม
มะม่วงหิมพานต์ เป็นพืชพื้นเมืองของบราซิล มีถิ่นกำเนิดอยู่ในแถบป่าฝนอเมซอน พบครั้งแรกโดยนักสำรวจชาวโปรตุเกส ส่วนที่เรานำมาทานคือเนื้อในของเมล็ด โดยเมล็ดจะติดอยู่ที่ปลายผลซึ่งมีลักษณะคล้ายกับชมพู่ ซึ่งเม็ดมะม่วงหิมพานต์นั้นมีลักษณะเม็ดคล้ายกับนวมของนักมวย นิยมนำมารับประทานเปล่า ๆ หรือนำไปปรุงกับอาหารคาวหวานต่าง ๆ เนื่องจากเม็ดมะม่วงหิมพานต์มีรสชาติหวานมันกว่าถั่วชนิดอื่น อีกทั้งคุณค่าทางโภชนาการก็ยังสูงอีกด้วย เหมาะสำหรับรับประทานเพื่อบำรุงสุขภาพค่ะ
เม็ดมะม่วงหิมพานต์มีสรรพคุณเด็ด ๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นสารอาหาร แร่ธาตุและวิตามินที่อยู่ในเม็ดมะม่วงหิมพานต์ซึ่งเป็นคุณกับสุขภาพของเราอีกนับไม่ถ้วน ใครที่กำลังมองหาอาหารเพื่อสุขภาพต้องเหลียวมาดูประโยชน์ของเจ้าถั่วชนิดนี้แบบด่วน ๆ เลยล่ะค่ะ
1. ป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง
เม็ดมะม่วงหิมพานต์เป็นพืชอีกชนิดหนึ่งที่อุดมไปด้วยสารแอนโทไซยานิน ซึ่งเป็นสารเดียวกับที่พบอยู่ในเมล็ดองุ่น มีฤทธิ์เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ทำหน้าที่ในการยับยั้งการเกิดเนื้องอก และช่วยหยุดการแบ่งตัวของเซลล์มะเร็งได้อีกด้วย มีการศึกษาพบว่าการรับประทานเม็ดมะม่วงหิมพานต์สามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งลำไส้ได้ และด้วยแร่ทองแดงที่มีอยู่ในเม็ดมะม่วงหิมพานต์ในปริมาณสูงก็ยังทำให้เจ้าถั่วชนิดนี้มีประโยชน์ในการยับยั้งความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจได้อีกเช่นกัน
2. เสริมสร้างสุขภาพหัวใจ
ในบรรดาถั่วทุกชนิด เม็ดมะม่วงหิมพานต์ถือเป็นถั่วที่มีปริมาณไขมันน้อยที่สุด แถมภายในเม็ดมะม่วงหิมพานต์นั้นก็ยังอุดมไปด้วยกรดโอเลอิก ซึ่งเป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวที่พบได้มากในน้ำมันมะกอก โดยเจ้ากรดโอเลอิกนี้เป็นกรดไขมันที่ดีต่อสุขภาพหัวใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะจากการศึกษาพบว่า กรดโอเลอิกจะเข้าไปลดปริมาณไขมันไตรกลีเซอไรด์ในเลือด ทำให้หลอดเลือดหัวใจแข็งแรง และลดความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือดได้ อีกทั้งแมกนีเซียมในเม็ดมะม่วงหิมพานต์ยังช่วยลดความดันโลหิตและป้องกันไม่ให้หัวใจวาย ไม่เพียงเท่านั้น เม็ดมะม่วงหิมพานต์ยังไม่มีคอเลสเตอรอลให้กวนใจ ใครที่อยากให้สุขภาพหัวใจแข็งแรงขอแนะนำให้หามารับประทานเลยค่ะ
3. ช่วยให้กระดูกแข็งแรง
เรามักจะเข้าใจว่าแคลเซียมเป็นแร่ธาตุที่มีความสำคัญกับกระดูก แต่จริง ๆ แล้วแมกนีเซียมก็สำคัญเช่นเดียวกัน เพราะนอกจากแคลเซียมแล้วในกระดูกของเราก็มีแมกนีเซียมอยู่ด้วยเช่นกัน และเป็นแร่ธาตุสำคัญที่ช่วยในการสะสมแคลเซียมของกระดูก การขาดแมกนีเซียมก็อาจจะทำให้กระดูกไม่สามารถสะสมแคลเซียมไว้ใช้ได้เพียงพอ อีกทั้งเอนไซม์จากแร่ทองแดงที่อยู่ในเม็ดมะม่วงหิมพานต์ ยังทำงานร่วมกับคอลลาเจนและอิลาสตินในร่างกาย ทำให้กระดูกและข้อต่อต่าง ๆ ทำงานได้อย่างแข็งแรงคงทน รวมทั้งมีความยืดหยุ่นมากขึ้นอีกด้วย
4. บำรุงสายตา
ประโยชน์อีกอย่างหนึ่งที่น่าอัศจรรย์ของเม็ดมะม่วงหิมพานต์นั้นมาจากสารอนุมูลอิสระตัวเล็ก ๆ ที่ชื่อว่าสารซีแซนทิน (zea-xanthin) ซึ่งเป็นสารอนุมูลอิสระที่เมื่อรับประทานเข้าไปแล้วก็จะถูกดูดซึมเข้าไปยังจอประสาทตา และเข้าไปช่วยป้องกันรังสี UV อีกทั้งยังช่วยป้องกันการเสื่อมสภาพของดวงตาในผู้สูงอายุได้อีกด้วย
5. บำรุงสุขภาพผมและผิวหนัง
ทองแดง ถือเป็นแร่ธาตุที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายซึ่งสามารถพบได้มากในเม็ดมะม่วงหิมพานต์ โดยเจ้าแร่ทองแดงนี้มีเอนไซม์อยู่เป็นจำนวนมาก เอนไซม์เหล่านั้นทำหน้าที่ในการเปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นเมลานิน และเจ้าเมลานินนี่ล่ะค่ะที่มีความสำคัญต่อเส้นผมและผิวหนัง ช่วยให้ผมดกดำ แล้วผิวหนังมีเม็ดสีที่สม่ำเสมอกันค่ะ
เม็ดมะม่วงหิมพานต์ โทษก็มี จะกินทั้งทีต้องระวังแบบนี้
พูดกันถึงเรื่องประโยชน์ของเม็ดมะม่วงหิมพานต์กันไปเยอะแล้ว คราวนี้เราลองมาดูโทษของเม็ดมะม่วงหิมพานต์กันบ้างค่ะ แม้ว่าจะมีประโยชน์มาก แต่การรับประทานถั่วชนิดนี้เข้าไปมาก ๆ ก็อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการตกค้างของสารบางชนิดที่มีในเม็ดมะม่วงหิมพานต์ หรืออาการแพ้เช่นเดียวกับถั่วชนิดอื่น ๆ
1. การตกค้างของสารออกซาเลต
เม็ดมะม่วงหิมพานต์เป็นพืชอีกชนิดหนึ่งที่มีสารออกซาเลต ซึ่งหากรับประทานเข้าไปในปริมาณมากเกินไปจนร่างกายขับออกได้ไม่หมดก็จะตกผลึกสะสมอยู่ในร่างกาย และหากสะสมในปริมาณมากเกินไปอาจจะทำให้เกิดเป็นก้อนนิ่วได้ โดยเฉพาะผู้ที่เป็นนิ่วในไต หรือปัญหาเกี่ยวกับถุงน้ำดีก็ควรจะหลีกเลี่ยงการรับประทานเม็ดมะม่วงหิมพานต์ นอกจากนี้สารออกซาเลตยังเป็นสารที่ไปขัดขวางการดูดซึมแคลเซียมของร่างกาย ทำให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมได้ไม่ดี ส่งผลให้แคลเซียมตกค้างในร่างกายได้อีกด้วย ฉะนั้นควรรับประทานอย่างพอเหมาะ หรือถ้ามีปัญหาสุขภาพตามที่กล่าวมาละก็ เลี่ยงไปเลยดีกว่าค่ะ
2. อาการแพ้
อย่าคิดว่าประโยชน์ของเม็ดมะม่วงหิมพานต์จะเหมาะสำหรับทุกคนนะคะ เพราะถ้าหากคุณเป็นคนที่มีอาการแพ้ถั่ว เม็ดมะม่วงหิมพานต์ก็เป็นอันตรายกับคุณเหมือนกัน เนื่องจากเม็ดมะม่วงหิมพานต์เป็นหนึ่งในตระกูลถั่วเช่นกัน แม้ว่าจะมีประโยชน์มากมาย แต่ถ้าไม่อยากเจออาการแพ้ที่อันตรายก็เลี่ยงแล้วไปรับประทานอาหารอื่น ๆ ที่มีคุณค่าอาหารใกล้เคียงกันดีกว่านะ
อย่าคิดว่าประโยชน์ของเม็ดมะม่วงหิมพานต์จะเหมาะสำหรับทุกคนนะคะ เพราะถ้าหากคุณเป็นคนที่มีอาการแพ้ถั่ว เม็ดมะม่วงหิมพานต์ก็เป็นอันตรายกับคุณเหมือนกัน เนื่องจากเม็ดมะม่วงหิมพานต์เป็นหนึ่งในตระกูลถั่วเช่นกัน แม้ว่าจะมีประโยชน์มากมาย แต่ถ้าไม่อยากเจออาการแพ้ที่อันตรายก็เลี่ยงแล้วไปรับประทานอาหารอื่น ๆ ที่มีคุณค่าอาหารใกล้เคียงกันดีกว่านะ
เม็ดมะม่วงหิมพานต์มีสรรพคุณเด็ด ๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นสารอาหาร แร่ธาตุและวิตามินที่อยู่ในเม็ดมะม่วงหิมพานต์ซึ่งเป็นคุณกับสุขภาพของเราอีกนับไม่ถ้วน ใครที่กำลังมองหาอาหารเพื่อสุขภาพต้องเหลียวมาดูประโยชน์ของเจ้าถั่วชนิดนี้แบบด่วน ๆ เลยล่ะค่ะ
1. ป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง
เม็ดมะม่วงหิมพานต์เป็นพืชอีกชนิดหนึ่งที่อุดมไปด้วยสารแอนโทไซยานิน ซึ่งเป็นสารเดียวกับที่พบอยู่ในเมล็ดองุ่น มีฤทธิ์เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ทำหน้าที่ในการยับยั้งการเกิดเนื้องอก และช่วยหยุดการแบ่งตัวของเซลล์มะเร็งได้อีกด้วย มีการศึกษาพบว่าการรับประทานเม็ดมะม่วงหิมพานต์สามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งลำไส้ได้ และด้วยแร่ทองแดงที่มีอยู่ในเม็ดมะม่วงหิมพานต์ในปริมาณสูงก็ยังทำให้เจ้าถั่วชนิดนี้มีประโยชน์ในการยับยั้งความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจได้อีกเช่นกัน
2. เสริมสร้างสุขภาพหัวใจ
ในบรรดาถั่วทุกชนิด เม็ดมะม่วงหิมพานต์ถือเป็นถั่วที่มีปริมาณไขมันน้อยที่สุด แถมภายในเม็ดมะม่วงหิมพานต์นั้นก็ยังอุดมไปด้วยกรดโอเลอิก ซึ่งเป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวที่พบได้มากในน้ำมันมะกอก โดยเจ้ากรดโอเลอิกนี้เป็นกรดไขมันที่ดีต่อสุขภาพหัวใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะจากการศึกษาพบว่า กรดโอเลอิกจะเข้าไปลดปริมาณไขมันไตรกลีเซอไรด์ในเลือด ทำให้หลอดเลือดหัวใจแข็งแรง และลดความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือดได้ อีกทั้งแมกนีเซียมในเม็ดมะม่วงหิมพานต์ยังช่วยลดความดันโลหิตและป้องกันไม่ให้หัวใจวาย ไม่เพียงเท่านั้น เม็ดมะม่วงหิมพานต์ยังไม่มีคอเลสเตอรอลให้กวนใจ ใครที่อยากให้สุขภาพหัวใจแข็งแรงขอแนะนำให้หามารับประทานเลยค่ะ
3. ช่วยให้กระดูกแข็งแรง
เรามักจะเข้าใจว่าแคลเซียมเป็นแร่ธาตุที่มีความสำคัญกับกระดูก แต่จริง ๆ แล้วแมกนีเซียมก็สำคัญเช่นเดียวกัน เพราะนอกจากแคลเซียมแล้วในกระดูกของเราก็มีแมกนีเซียมอยู่ด้วยเช่นกัน และเป็นแร่ธาตุสำคัญที่ช่วยในการสะสมแคลเซียมของกระดูก การขาดแมกนีเซียมก็อาจจะทำให้กระดูกไม่สามารถสะสมแคลเซียมไว้ใช้ได้เพียงพอ อีกทั้งเอนไซม์จากแร่ทองแดงที่อยู่ในเม็ดมะม่วงหิมพานต์ ยังทำงานร่วมกับคอลลาเจนและอิลาสตินในร่างกาย ทำให้กระดูกและข้อต่อต่าง ๆ ทำงานได้อย่างแข็งแรงคงทน รวมทั้งมีความยืดหยุ่นมากขึ้นอีกด้วย
4. บำรุงสายตา
ประโยชน์อีกอย่างหนึ่งที่น่าอัศจรรย์ของเม็ดมะม่วงหิมพานต์นั้นมาจากสารอนุมูลอิสระตัวเล็ก ๆ ที่ชื่อว่าสารซีแซนทิน (zea-xanthin) ซึ่งเป็นสารอนุมูลอิสระที่เมื่อรับประทานเข้าไปแล้วก็จะถูกดูดซึมเข้าไปยังจอประสาทตา และเข้าไปช่วยป้องกันรังสี UV อีกทั้งยังช่วยป้องกันการเสื่อมสภาพของดวงตาในผู้สูงอายุได้อีกด้วย
5. บำรุงสุขภาพผมและผิวหนัง
ทองแดง ถือเป็นแร่ธาตุที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายซึ่งสามารถพบได้มากในเม็ดมะม่วงหิมพานต์ โดยเจ้าแร่ทองแดงนี้มีเอนไซม์อยู่เป็นจำนวนมาก เอนไซม์เหล่านั้นทำหน้าที่ในการเปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นเมลานิน และเจ้าเมลานินนี่ล่ะค่ะที่มีความสำคัญต่อเส้นผมและผิวหนัง ช่วยให้ผมดกดำ แล้วผิวหนังมีเม็ดสีที่สม่ำเสมอกันค่ะ
เม็ดมะม่วงหิมพานต์ โทษก็มี จะกินทั้งทีต้องระวังแบบนี้
พูดกันถึงเรื่องประโยชน์ของเม็ดมะม่วงหิมพานต์กันไปเยอะแล้ว คราวนี้เราลองมาดูโทษของเม็ดมะม่วงหิมพานต์กันบ้างค่ะ แม้ว่าจะมีประโยชน์มาก แต่การรับประทานถั่วชนิดนี้เข้าไปมาก ๆ ก็อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการตกค้างของสารบางชนิดที่มีในเม็ดมะม่วงหิมพานต์ หรืออาการแพ้เช่นเดียวกับถั่วชนิดอื่น ๆ
1. การตกค้างของสารออกซาเลต
เม็ดมะม่วงหิมพานต์เป็นพืชอีกชนิดหนึ่งที่มีสารออกซาเลต ซึ่งหากรับประทานเข้าไปในปริมาณมากเกินไปจนร่างกายขับออกได้ไม่หมดก็จะตกผลึกสะสมอยู่ในร่างกาย และหากสะสมในปริมาณมากเกินไปอาจจะทำให้เกิดเป็นก้อนนิ่วได้ โดยเฉพาะผู้ที่เป็นนิ่วในไต หรือปัญหาเกี่ยวกับถุงน้ำดีก็ควรจะหลีกเลี่ยงการรับประทานเม็ดมะม่วงหิมพานต์ นอกจากนี้สารออกซาเลตยังเป็นสารที่ไปขัดขวางการดูดซึมแคลเซียมของร่างกาย ทำให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมได้ไม่ดี ส่งผลให้แคลเซียมตกค้างในร่างกายได้อีกด้วย ฉะนั้นควรรับประทานอย่างพอเหมาะ หรือถ้ามีปัญหาสุขภาพตามที่กล่าวมาละก็ เลี่ยงไปเลยดีกว่าค่ะ
2. อาการแพ้
อย่าคิดว่าประโยชน์ของเม็ดมะม่วงหิมพานต์จะเหมาะสำหรับทุกคนนะคะ เพราะถ้าหากคุณเป็นคนที่มีอาการแพ้ถั่ว เม็ดมะม่วงหิมพานต์ก็เป็นอันตรายกับคุณเหมือนกัน เนื่องจากเม็ดมะม่วงหิมพานต์เป็นหนึ่งในตระกูลถั่วเช่นกัน แม้ว่าจะมีประโยชน์มากมาย แต่ถ้าไม่อยากเจออาการแพ้ที่อันตรายก็เลี่ยงแล้วไปรับประทานอาหารอื่น ๆ ที่มีคุณค่าอาหารใกล้เคียงกันดีกว่านะ
อย่าคิดว่าประโยชน์ของเม็ดมะม่วงหิมพานต์จะเหมาะสำหรับทุกคนนะคะ เพราะถ้าหากคุณเป็นคนที่มีอาการแพ้ถั่ว เม็ดมะม่วงหิมพานต์ก็เป็นอันตรายกับคุณเหมือนกัน เนื่องจากเม็ดมะม่วงหิมพานต์เป็นหนึ่งในตระกูลถั่วเช่นกัน แม้ว่าจะมีประโยชน์มากมาย แต่ถ้าไม่อยากเจออาการแพ้ที่อันตรายก็เลี่ยงแล้วไปรับประทานอาหารอื่น ๆ ที่มีคุณค่าอาหารใกล้เคียงกันดีกว่านะ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น